วิธีรักษาโรคข้อเสื่อม
ขณะนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาโรคข้อเสื่อมที่มีประสิทธิภาพที่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนก็ตาม จุดประสงค์ในการรักษา คือ
ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยว่าโรคข้อเสื่อมไม่ใช่โรคร้ายแรงหรือก่อให้เกิดทุพพลภาพมากมาย
ผู้ป่วยสามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ข้อเสื่อมลุกลามได้ เช่น
ควบคุมน้ำหนัก ลดน้ำหนักรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่โดยเฉพาะกลุ่มวิตามิน
ออกกำลังกายเพื่อให้กล้ามเนื้อรอบๆ ข้อแข็งแรงและให้ข้อยืดหยุ่นได้ดี ทั้งนี้
ควรเป็นกีฬาที่ผ่อนคลายและไม่มีการปะทะรุนแรง เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น
การออกกำลังกายอย่างถูกต้องถูกวิธีและสม่ำเสมอจะช่วยชะลอการเสื่อมหรือลดอาการปวดได้อย่างมาก
ยาและอาหารเสริมบางชนิดสามารถเปลี่ยนโครงสร้างกระดูกอ่อนข้อต่อได้
แต่ข้อเสียคือ ออกฤทธิ์ช้า มีราคาแพง และไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีข้อเสื่อมรุนแรง
ส่วนการรักษาด้วยการผ่าตัดและการเปลี่ยนข้อเข่าเทียมจะสามารถระงับอาการปวดในผู้ป่วยที่รับประทานยาแก้ปวดลดอักเสบแล้วไม่ได้ผล
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์ทำให้ภาวะแทรกซ้อนและอัตราการตายจากการผ่าตัดมีน้อยมากเนื่องจากเป็นการผ่าตัดแผลเล็กและใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนำทาง
ทำให้มีความแม่นยำมาก มีการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อน้อย
ผู้ป่วยจะฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้เร็ว
ข้อเข่าเสื่อมพบในวัยใดบ้าง
โรคข้อเสื่อมเป็นการเปลี่ยนแปลงในเซลล์และเนื้อกระดูกอ่อนข้อต่ออย่างเป็นขั้นเป็นตอน
จนทำให้โครงสร้างและการทำงานของกระดูกอ่อนเสียไป ซึ่งติดตามด้วยกระบวนการซ่อมแซมกระดูกอ่อนและปรับแต่งกระดูก
การลุกลามของอาการข้อเสื่อมจึงแตกต่างกันไป
บางรายเกิดการลุกลามอย่างรวดเร็วที่ข้อหนึ่ง แต่ข้ออื่นๆ กลับเป็นไปอย่างช้าๆ
บางครั้งก็อาจจะดีขึ้นเอง นั่นคือ มีการซ่อมแซมให้คืนสภาพเดิมทำให้อาการปวดลดลง
มีการศึกษาที่น่าสนใจ คือ เมื่อติดตามผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเสื่อมเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป
ด้วยภาพรังสีพบว่า ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย
โรคไม่ได้ลุกลามมากขึ้น ร้อยละ 10 มีภาพรังสีดีขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามภาพรังสีที่พบไม่ได้สัมพันธ์กับอาการแสดงของผู้ป่วยโดยตรง ดังนั้น
จึงเป็นเรื่องยากสำหรับแพทย์ที่จะพยากรณ์โรคหรืออธิบายการดำเนินโรค
แต่ที่ทราบแน่ชัดคือปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ข้อเสื่อมลุกลามเร็ว
ได้แก่ การบาดเจ็บบริเวณข้อ การบิดหมุนข้อหรือมีแรงกระทำซ้ำๆ ข้ออักเสบเกาต์
และความผิดปกติตามระบบประสาทกล้ามเนื้อ
โรคข้อเสื่อมมีโอกาสรักษาให้หายขาดไหม
ว่าโรคข้อเสื่อมเกิดจากภาวะความผิดปกติที่ข้อต่อมากกว่าการสึกหรอตามวัย
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบริเวณกระดูกอ่อนข้อต่อและกระดูกเกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นตอน
ถ้าหากสามารถพบความผิดปกติที่ขั้นตอนใดก็สามารถหาวิธีในการป้องกันหรือรักษาข้อเสื่อมได้
จึงมีความเป็นไปได้ที่จะรักษาหรือชะลอการลุกลามของโรคข้อเสื่อมได้
ในปัจจุบันนักวิจัยได้ค้นพบว่าโรคข้อเสื่อมถูกกำหนดด้วยพันธุกรรมถึงร้อยละ
60 ในอนาคตแพทย์อาจจะสามารถคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคข้อเสื่อมได้
โดยการเจาะเลือดตรวจหายีนส์ที่สัมพันธ์กับการเกิดโรค
เพื่อให้ความรู้และแนะนำวิธีการป้องกันโรคแก่ผู้ป่วยแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีแคลอรีสูงซึ่งจะทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม
โดยเฉพาะอาหารในกลุ่มวิตามิน เช่น วิตามินอี วิตามินซี เบตาแคโรทีน
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยสร้างคอลลาเจน วิตามินเหล่านี้จะช่วยชะลอการลุกลามของข้อเสื่อมได้เล็กน้อย
มีการศึกษาที่น่าสนใจในสหรัฐอเมริกาพบว่า
ผู้ที่มีระดับวิตามินดีในเลือดต่ำจะมีความเสี่ยงต่อการลุกลามของข้อเสื่อมมากกว่าผู้ที่มีระดับวิตามินดีสูง
ดังนั้น นอกจากจะต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่ในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว
ควรออกกำลังกายกลางแจ้งอย่างสม่ำเสมอด้วย
สามารถอ่านข้อมูลได้ที่: http://www.cynhite.com/3916/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น